วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
History 7Days Crazy
สมาชิกวง 7 Days Crazy
ธีรพล มาลัยวงศ์ (โบ็ต) ตำแหน่ง : ร้องนำ
เจนณรงค์ อินทเสน (เบส) ตำแหน่ง : กีตาร์
อิทธิพล มุกดา (อาร์ท) ตำแหน่ง : กีตาร์
กวี ชายเนตร (เบน) ตำแหน่ง : เบส
นพดล ทวีศรี (ไอซ์) ตำแหน่ง : กลอง
การรวมตัวของสมาชิกในวงเริ่มจากโบ๊ทและเบสได้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ป.ว.ช. และได้มีความชอบในดนตรีเหมือนกันจึงได้ร่วมวงกันกับเพื่อนๆเล่นด้วยกันมา เป็นเวลา 2 ปี จนได้มาเจอกับ ไอซ์ , อาร์ทซึ่งสองคนนี้เป็นสมาชิกวง Drenched ซึ่งได้รู้จักกับเบสในวง Zabulatal อยู่แล้ว จึงได้มาอยู่วงเดียวกัน และอาร์ทก็ได้แนะนำ เบน เข้ามาอยู่ในวงแล้วก็เริ่มทำเพลงด้วยกันมาเรื่อยๆ หลายเพลงด้วยกัน และได้เลือกเพลง “ แค่ได้รักเธอ” มาปล่อยเป็นซิงเกิ้ลแรก. จึงได้มีวง 7 Days Crazy ในวันนี้
History Musketeers
MUSKETEERS คือ วงดนตรีโมเดิร์นร็อคจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับอิทธิพลและมีกลิ่นอายมาจากดนตรีฝั่งอังกฤษ โดยจริงๆ แล้วสมาชิกแต่ละคนจะมีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป แต่กลับเป็นข้อดีที่ทำให้จุดเด่นของแต่ละคนผลิตออกมาเป็นเพลงที่มีลายมือของวงค่อนข้างชัดเจน ด้วยเมโลดี้ที่ไพเราะ ติดหู กับดนตรีหลากหลายอารมณ์ บวกกับเนื้อหาเท่ห์ๆ จากวิธีคิดของพวกเขา การรวมตัวของเริ่มจากการที่ทุกคนชอบนัดซ้อมดนตรีหลังเลิกเรียนด้วยกันเป็นประจำ และเริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากเวทีต่างๆ อาทิ งาน Hunger Free Music Festival ได้รับรางวัล เนื้อเพลงยอดเยี่ยม และล่าสุดกับตัวแทนภาคเหนือ และรางวัลชมเชย จากงาน Believe Audition Day 2007
มุมมองในการแต่งเพลง เป็นมุมมองเรื่องราวต่างๆ รอบๆ ตัว และได้หยิบยกมาเขียนเป็นเพลง โดยเริ่มจาก บิ๊กและพุ จะเป็นผู้แต่งดนตรีขึ้นมาก่อน ส่นเท็นจะเขียนเนื้อร้อง โดยจับอารมณ์ของดนตรี ถึงจะถ่ายทอดออกมาเป็นเพลง เพลงหนึ่ง เนื้อเพลงจะฟังง่าย เรื่องราวไม่ซับซ้อน บางเพลงอาจจะฟังแล้วเหมือนฟังนิทานสักเรื่องหนึ่ง ซึ่งถ่ายทอดผ่านดนตรี ของ MUSKETEERS
สมาชิก วง MUSKETEERS (มัสคีเทียร์)
ชาครีย์ ลาภบุญเรือง “เท็น” ร้องนำ
สรรวิช หวานสนิท “ด๋อย” เบส
ภาคภูมิ นิ่มละมัย “พู” กีต้าร์
รวิน มิตรจิตรานนท์ “บิ๊ก” กีต้าร์
เอกพจน์ อิ่มสำราญ “โจ้” กลอ
History Getsunova
เริ่มที่ เนม ปราการ ไรวา ทายาทของเจ้าของบริษัทร้านอาหาร S&P อดีตศิลปินเดี่ยวจากค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้ชักชวนเพื่อนๆ ที่เรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษด้วยกันตั้งวงดนตรีขึ้นมา ซึ่งมี นาฑี โอสถานุเคราะห์ และ นต ปณต คุณประเสิรฐ เป็นมือกีตาร์ และต่อมา นต ได้ชักชวนเพื่อนของเขา ไปป์ คมฆเดช แสงวัฒนาโรจน์ มาเล่นในตำแหน่งมือกลอง จึงเกิดเป็นวง Getsunova ขึ้นมา
คำว่า เก็ทสึโนวา มาจากคำสองภาษา เก็ทสึ เป็นภาษาญี่ปุ่น แปลว่าพระจันทร์ ส่วน โนวา เป็นภาษาอังกฤษ แปลว่าระเบิด รวมกันเป็นพระจันทร์ระเบิด ซึ่งทางวงเห็นว่าเป็นชื่อที่แปลกดีจึงนำมาใช้เป็นชื่อวง หลังจากตั้งวงได้แล้วพวกเขาก็เริ่มซ้อมเพลงกันทั้งที่ประเทศอังกฤษและประเทศไทย โดยมีนตเป็นคนเรียบเรียงดนตรี และถึงแม้สมาชิกบางคนจะอยู่ไกลกันคนละประเทศแต่พวกเขาก็เดินหน้าทำดนตรีด้วยกันได้โดยผ่านอินเทอร์เน็ต
จนกระทั่งพวกเขาส่งผลงานไปที่ค่ายสนามหลวงการดนตรี และเป็นที่ชื่นชมของยุทธนา บุญอ้อม ซึ่งเป็น Managing Director ของค่ายสนามหลวงการดนตรี จึงรับพวกเขาเป็นสมาชิกของค่ายและออกผลงานแรกของวงออกมา คือ อีพีเก็ทสึโนวาเดอะเฟิร์สท์ซิงเกิ้ล โดยปล่อยซิงเกิ้ลเพลง กล่อม ออกมาเป็นซิงเกิ้ลแรก
History Silly Fools
Silly Fools หรือมีชื่อย่อว่าที่เรียกขานกันว่า SF แต่เดิมวงมีชื่อว่า Silly Foolish โดยมี ต้น เป็นผู้ก่อตั้งวง งานชุดแรกออกกับค่ายเบเกอรี่มิวสิก ในปี 2539 ชุด E.P. และอัลบั้มที่เหลือออกกับค่ายมอร์มิวสิค/แกรมมี่ ทั้งหมด Silly Fools มีสมาชิกในวงทั้งหมด 4 คน ซึ่งมีได้การเปลี่ยนสมาชิกในตำแหน่งมือกลองภายในวงเกิดขึ้น โดยที่ 2 ชุดแรก คือ E.P. และ I.Q. 180 ตำแหน่งกลองคือ เต้ย กอบภพ ใบแย้ม ได้เปลี่ยนมาเป็น ต่อ ต่อตระกูล ใบเงิน ตั้งแต่ชุด Candyman จนถึงอัลบั้มล่าสุด
วันที่ 26 มิถุนายน 2549 : โต ณัฐพล (ร้องนำ) ได้ออกมาแถลงข่าวเรื่องออกจากวง
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2549 : Silly Fools กับนักร้องใหม่ซึ่งยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร ใส่หน้ากากขึ้นเล่นเพลงใหม่ 2 เพลง เนื้อร้องภาษาอังกฤษ ในคอนเสิร์ต FaT Festival
วันที่ 21 ธันวาคม 2549 : Silly Fools ต้น หรั่ง ต่อ เริ่มโปรโมตอัลบั้มใหม่ตามสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ และได้ไปออกรายการวิทยุตามสถานีต่างๆ เกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ที่จะวางแผงในต้นปีหน้า ในชื่อชุดว่า "Mini" เป็นเพลงภาษาอังกฤษจำนวน 5 เพลง ซึ่งนักร้องคือ Benjamin Jung Tuffnell โดยมีเพลง Stay Away เป็นเพลงเปิดตัว ซึ่งเคยร้องมาแล้วในคอนเสิร์ต FaT ที่ผ่านมา
วันที่ 21 มกราคม 2550 : เปิดตัวกับผลงานชุดล่าสุด "Mini" โดยชุดนี้จัดทำซีดีจำหน่ายเพียง 3,000 แผ่น และในวันนี้จำหน่ายก่อน 1,000 แผ่น โดยที่ 300 คนแรกจะได้เข้าชมมินิคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มใหม่และนักร้องใหม่
วันที่ 26 มกราคม 2550 : ชุด Mini วางแผงทั่วประเทศจำนวน 2,000 แผ่น
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 : วางแผ่นปกติ E.P.ชุด Mini มี 4 ปก
และเร็วๆ นี้ กับผลงานใหม่ ภายใต้บ้านหลังใหม่ อย่างบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) โดย ต่อ มือกลองวง Silly Fools ได้ประเดิมผลงานชิ้นแรก กับการทำงานดนตรีให้อัลบั้มที่ 3 ของ เม-จีระนันท์
วันที่ 31 มกราคม 2551 ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มใหม่ ในชื่อเพลง "เราเป็นคนเลือกเอง" ถูกเปิดออกอากาศทาง Seed FM 97.5 เป็นครั้งแรก โดยอัลบั้มชุดใหม่ใช้ชื่อว่า "The One" พร้อมทีเซอร์เปิดตัวในรูปแบบแอนิเมชั่น ซึ่งสามารถเข้าไปชมได้ที่ Myspace ของทางวง และอัลบั้มใหม่จะวางแผงประมาณเดือนมีนาคม
History Blackhead
แบล็คเฮด วงร็อคที่รวมตัวกันตั้งแต่ ปี 2537 ในยุคที่เพลงแนวอัลเทอเนทีฟ ได้เข้ามามีอิทธิพลสูง ในวงการเพลงไทย ประกอบไปด้วยสมาชิก 4 คน คือ “ปู” อานนท์ สายแสงจันทร์ “ต๋อง” สมทบ สมมีชัย “เอก” อภิสิทธิ์ พงษ์ชัยสิริกุล “ยุ่น” วิโรจน์ เจริญพิพัฒน์สิน พวกเขาออก อัลบั้มแรก ในชื่อ Mini Album : Black List ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 2538 ต่อมาในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน อัลบั้มเต็มชุดแรกของพวกเขา จึงออก ตามมา ภายใต้ชื่อ The Album Blackhead ซึ่งประสบ ความสำเร็จอย่างสูง ในฐานะวงดนตรีร็อคหน้าใหม่ นับเป็นการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ของวงดนตรีหัวดำวงนี้
เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จ และขอบคุณแรงตอบ รับ จากคนฟังเพลง ที่ให้กับพวกเขาอย่างมากมาย ในปีถัดมา แบล็คเฮด จึงได้ออกอัลบั้มพิเศษในชื่อ Blackbonus ซึ่งมีเพลง “ยืนยัน” ในเวอร์ชั่นพิเศษ ที่ประสบ ความสำเร็จ อย่างสูง ในเวลาต่อมารวมอยู่ด้วย ต่อมาพวกเขาออกอัลบั้มพิเศษ อีกชุด ในชื่อ Black Live ซึ่งบรรจุเพลงเวอร์ชั่นแสดงสดเอาไว้มากมาย และระหว่างการออกทัวร์คอนเสิร์ต พวกเขาก็ได้เตรียมตัว สำหรับการออกอัลบั้มชุดใหม่ ซึ่งได้ทยอย แต่งเพลงสะสม เรื่อยมา จนเรียบร้อย อัลบั้มเต็มชุดนี้ ของพวกเขาใช้ชื่อว่า “Full Favor” ซึ่งเป็นการพัฒนา ทางดนตรีครั้ง สำคัญของพวกเขา อัลบั้ม “Full Favor” ได้รับการ ยอมรับในวงกว้าง จากทั้ง นักวิจารณ์และ ในวงการเพลง ทำให้พวกเขา ได้รับรางวัล จากงานสีสันอวอร์ด ครั้งที่ 10 ถึง 3 รางวัล ในปี 2540 ได้แก่ รางวัล “ศิลปินกลุ่มร็อคยอดเยี่ยม” รางวัล “อัลบั้มร็อคยอดเยี่ยม” รางวัล “เพลงร็อคยอดเยี่ยม” จากเพลง “หลอน”
และด้วยความ ไม่หยุดนิ่ง ในปี 2541 แบล็คเฮดจึงได้ออกอัลบั้มพิเศษ ที่ใช้ชื่อว่า “Relax” ออกมาอีก 1 ชุด เป็นเพลงในสไตล์ อะคูสติก ต่างจากเพลง ในอัลบั้มที่ผ่านๆ มา ปี 2542 แบล็คเฮด ออกอัลบั้มกับค่าย มอร์มิวสิค ในชื่อว่า “Pure” ซึ่งเป็นผลงานที่ผ่านการกลั่นกรอง มาจากประสบการณ์ทางด้านดนตรี ที่ยาวนานของพวกเขา ถ่ายทอดความหลากหลาย และเสน่ห์ที่ลุ่มลึกของดนตรีร็อค ออกมาได้อย่างสวยงาม สมกับความเป็นวงร็อคอย่างแบล็คเฮด
ปี 2543 แบล็คเฮด ออกอัลบั้มเพิ่มอีก โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า “Basic” ซึ่งในชุดนี้ เป็นการทำเพลง แบบไม่ใช้ดนตรีสังเคราะห์ เพราะต้องการทำให้ออกมาแบบสด จึงมีการปรุงแต่งน้อยมาก เหมือนกลับสู่ความเป็น Basic และชุดนี้ก็ได้รับความสนใจจากแฟนเพลงอย่างมาก ทำให้มีเพลงมากมายในอัลบั้มขึ้นสู่อันดับ 1 ใน Chart ต่างๆมากมาย
ปี 2546 อัลบั้ม “Handmade” งานเพลง ที่มีการเปลี่ยนแปลงมือกลองจาก”ยุ่น” มาเป็น”ไก่” จากวง “Y not 7″ นับเป็นการปรับเปลี่ยนในด้านซาวนด์กลอง ที่ยังคงดนตรีความเป็นแบล็คเฮดครบครัน ตอบสนองคอเพลงฮาร์ด ร็อค ขนานแท้ มีทั้งเฮฟวี่ เมทัล, ฮาร์ดคอร์ ที่มีกลิ่นอายฟังค์กี้ ชุดนี้เป็นงานเพลง”ทำมือ” ที่เน้นฝีมือ ดนตรีหนัก แรง ฟีลสด ไม่เน้น effect มากนัก เนื้อหาการใช้คำที่แรงขึ้น แต่ยังคงวิธีการร้องในแบบฉบับดั้งเดิมของ”ปู”
ปี 2548 ออกผลงานชุดที่ 6 อัลบั้ม “Ten” เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี แบล็คเฮด (Blackhead) ซึ่งยังมีเหล่าสมาชิกคงเดิม นำโดย ปู – อานนท์ สายแสงจันทร์ (ร้องนำ) เอก – อภิสิทธิ์ พงศ์ชัยสิริกุล (กีตาร์) ต๋อง – สมทบ สมมีชัย (เบส) และการกลับมาของ ยุ่น – วิโรจน์ เจริญพิพัฒน์ศิลป์ (มือกลอง) คนเดิม ที่กลับมาตีกลองให้อีกครั้ง หลังจากที่หันเหไปทำธุรกิจส่วนตัวอยู่พักใหญ่ อัลบั้มชุดนี้ใช้เวลาคิดกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่จบอัลบั้มชุดแฮนด์เมด (Handmade) โดยแบล็คเฮดพิถีพิถันกันสุดๆ โดยใช้เวลาในห้องอัดจริงๆ ประมาณ 1-2 เดือน ในส่วนของแนวเพลงยังคงเน้นร็อกเช่นเดิม เนื้อหาของเพลง ค่อนข้างพูดถึงในเรื่องของผู้ใหญ่มากกว่า เปิดตัวด้วยเพลง ไม่จำเป็นต้องดีที่สุด เพลงช้าซึ้งๆ ในแบบแบล็คเฮด และเพลงร็อกเร็วๆ อย่าง เหนือฟ้ายังมีฟ้า
ปี 2550 ออกอัลบั้มล่าสุดชุดที่ 7 ชื่อ“Deep ดีพ” เพลงในอัลบั้มนี้ ตัวเพลงจะมีความหลากหลายรวมถึงเพลงที่มีกลิ่นของซาวด์ดนตรีที่เป็นพวกไซคิโดลิก ร็อก , พังค์ , เมทัล แบบยุค 70 ซึ่งเป็นร็อกย้อนยุค จนถึงเพลงร็อกแบบในยุควันนี้ ซึ่งมันคือทุกยุคที่แบล็คเฮดเคยผ่านมา เข้ามาอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย
History Labanoon
ลาบานูน เป็นวงดนตรีของสามหนุ่มเชื้อสายไทยมุสลิมจาก อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (Islamic College of Thailand) ทุ่งครุ หอพักประจำฯ (ชาย) โดยมี อาจราย์ พีรพนร์ ชัยตรี เป็นรุ่นที่.. เกิดจากการ เข้าร่วมประกวดในโครงการ "Hot Wave Music Awards" และ ผ่านเข้าไปในรอบ 10 วงสุดท้ายโดย มี ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ค่ายมิวสิกบั๊กส์ หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน ได้ชักชวนพวกเขามาร่วมงาน
"ลาบานูน" เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า "นมสด" ซึ่งเป็นคำจำกัด ความของพวกเขา เพราะดนตรีในความคิด ของพวกเขาคือ นมสด รสจืด ไม่เจือสี ไม่ปรุงแต่ง รสชาติ อะไรให้วุ่นวายซับซ้อน เหมือนกับวงของพวกเขา ที่ใช้ เครื่องดนตรีเพียง 3 ชิ้น คือกีตาร์ เบส และกลอง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)